วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เเบบทดสอบกลางภาคเรียน

ทดสอบกลางภาคเรียน

ห้นักศึกษาทำข้อสอบต่อไปนี้ ลงในบล็อกของนักศึกษา 20 คะแนน

1.การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนและชั้นเรียนนั้น มีวัดเป็นแหล่งให้ความรู้และมีพะภิกษุเป็นผู้สอน การสอนนั้นสอนเพียงเพื่อประกอบวิชาชีพและอาชีพ ความรู้ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดจะไม่มีการจดบันทึกใช้การท่องจำมากกว่า

2.สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ  ต่างกัน สมัยสุโขทัย มีวัดเป็นสถานศึกษา มีสถานที่เรียนคือ หอฉันท์หรือระเบียงกุฏิ การสอนเรียนว่า การต่อหนังสือ ไม่มีการติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก สมัยกรุงศรีอยุธยา มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนา มีการติดต่อกับฝรั่งชาวต่างชาติ และมีการประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทย

3.อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ 1. ภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจ
         2. การติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
         3. การเผยแพร่ศาสนา

4.การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ  การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ มีความก้าวหน้าทางด้านการจัดการศึกษาและได้ฟื้นฟูการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี เริ่มนำวิทยาการใหม่ๆมีการจัดพิมพ์ตำราเรียนเป็นจุดเริ่มต้น การปฏิรูปการศึกษาของไทยในสมัยต่อไป

5.แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ  แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อจินดามณี เกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตรงกับรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีที่มาคือ ฝรั่งได้มาติดต่อค้าขายและเผยแพร่ศาสนา มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนา ประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรก รับวิชาการแบบยุโรปและแต่งแบบเรียน คือ จินดามณี เป็นแบบเรียนเล่มแรกของไทย

6.การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล
ตอบ  
การศึกษาจัดการศึกษาภาคบังคับ แบ่งออกเป็นสองภาคคือ ภาคการศึกษาสำหรับทวยราษฎร์ ได้แก่ ประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับ มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับผิดชอบชั่วดี และภาคศึกษาพิเศษ เรียกว่ามัธยมศึกษา เรียนทั้งสามัญและวิสามัญ ไม่บังคับให้เรียนทุกคน ขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์และสติปัญญาของผู้เรียน ยังไงก็ตามการจัดการศึกษาภาคบังคับ เป็นกฎการกำหนดให้เยาวชนได้รับการศึกษา เพื่อนำไปประกอบอาชีพ และการเป็นพลเมืองที่ดีเพื่อให้ประเทศชาติพัฒนาเท่าทันประเทศที่เจริญแล้ว

7.การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ  การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาเป็นการศึกษามีศูนย์กลางอยู่ที่วัด การจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษามี
 8 มาติกา ดังนี้
         1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ที่ตั้งของวัด
         2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด เช่น หอฉันท์ หอสวดมนต์ วิหาร และศาลาการเปรียญ
         3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
         4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
         5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
         6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
         7.วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
         8.ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัย การลงโทษ

8.การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ  สมัยรัชการที่
 5 เพราะต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถไปพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองเทียมเท่าทันประเทศที่พัฒนาแล้วเพื่อให้ประเทศประเทศพัฒนาไม่ล้าหลัง

9.การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ  เห็นด้วย เพราะ เป็นยุคที่มีการพัฒนาการศึกษา ที่มีการนำระบบเทคโนโลยีและการสื่อสาร (
ICT) มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เช่น การปฏิรูปหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ วิธีการเรียนของผู้เรียน การบริหารสภาพแวดล้อมในโรงเรียน และที่สำคัญคือเพื่อให้การศึกษามีความเจริญก้าวหน้าเทียบเท่าประทศที่พัฒนาแล้ว

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียน จัดทำคู่มืออาเซียน ทำหลักสูตรอาเซียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา พัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 2 คุณภาพและโอกาสทางการศึกษา สร้างโอกาสทางการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา บรรลุเป้าหมายเพื่อปวงชน ปีพ.ศ.2558 และเพิ่มคุณภาพการศึกษาการจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู
ยุทธศาสตร์ที่ 3 เคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนและการจัดการศึกษาให้มีความเสมอภาค จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์
ยุทธศาสตร์ที่ 4  การสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรรายสาขาอื่น ๆ เพื่อพัฒนา การศึกษาและสนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม การจัดการความเสี่ยงและภัยพิบัติ การจัดการ ศึกษาเพื่อสิทธิมนุษยชน การจัดการศึกษาเพื่อป้องกันโรคเอดส์ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น